Search
Close this search box.
Magpies & Red Devils

Magpies & Red Devils ในช่วงที่ยังคงน่ากลุ้มใจพอกัน!

Magpies & Red Devils ในช่วงเวลาที่ยังคงน่ากลุ้มใจพอกัน ยังสุมอยู่กับปัญหาที่ต้องแก้ไขกันต่อไป!

Magpies & Red DevilsMagpies & Red Devils ทั้ง 2 ทีมกับมรสุมปัญหาชีวิต ที่ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้น ขาขึ้นมาก่ายหน้าผากนะ เพราะที่ผ่านมาทั้ง 2 ทีมนั้น มีจุดที่เหมือนกันเลย คือการเปลี่ยนผู้จัดการทีม เพราะด้วยผลงานที่ 2 เฮดโค้ชเก่าของทั้ง 2 ทีมนั้นทำมาได้อย่างงามไส้เหลือเกิน จะเริ่มจากทาง แมนฯ ยูไนเต็ด กุนซือจอมเก๋า ชาวเยอรมัน ราล์ฟ รังนิค ที่เข้าเข้ามารับเฝือกร้อนๆ ต่อจาก “เฮียยิ้ม” โอเล่ กุนนา โซลชา และปัญหาที่รับไม้ต่อมาอีกที อาทิเช่น จ่ายบอลยังไม่ตรง คงจะเล่นระบบไหนก็ไม่รอด
ทัพ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ควรดีใจกับ 1 แต้มที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค ก็มากพอแล้ว เพราะว่ากันว่านี่คือเกมดีที่สุดจนถึง ณ ปัจจุบันนี้แล้ว ของ “สาริกาไฮโซ” เศรษฐีใหม่ นิวคาสเซิ่ล ที่นัดนี้นั้นมาพร้อมกันทุกอย่างทั้ง ฟอร์มการเล่นที่ดีผิดหูผิดตา และใจที่เกิน 100% ก่อนตลาดนักเตะหน้าหนาวนี้ ที่กำลังจะเปิดในเดือน มกราคม ที่จะถึง เพื่อไม่ให้โดนเฉดหัวเน่าๆ ออกจากทีมไป แฟนบอลเลยได้เห็นการวิ่งแบบลืมตาย 
ภาพนักเตะทัพ “สาลิกา” ปากหวอ ,ตาค้างหลังสิ้นเสียงนกหวีดนั้น เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด

“ทูนอาร์มี่” Magpies & Red Devils แฟนนิวคาสเซิ่ล

ที่วันนี้แหกปากดูบอลชนิดโคตรจะมัน ถึงกับยืนปรบมือให้กับทุกๆ เม็ดเหงื่อที่นักเตะเสียไป แม้เชื่อว่าทุกคนเสียดายกับ 2 คะแนนที่หายไป
“ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ดนั้นกลับมาดีขึ้นเล็กน้อย ในครึ่งหลัง และมาได้ประตูตีเสมอจากการแก้เกมของ “ลุงรัง” ราล์ฟ รังนิค ที่คิดเร็วทำเร็วนั้นจัดการเปลี่ยนผู้เล่น 2 รายรวด หลังพักครึ่ง มาได้ เอดิสัน คาวานี่ ที่ส่งลงมายิงประตูนี้ช่วยชีวิตทีมไปได้ในแมตช์นี้
อย่างไรก็ตามครึ่งแรกเป็นสิ่งที่แฟนๆ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นรับไม่ได้อย่างแรง และหาก ทัพปีศาจแดง นั้นจะแก้ปัญหาเพื่อให้ผลการแข่งขันอยู่ในสภาพที่นิ่งกว่านี้ และเชื่อเหลือเกินว่าเรื่องพื้นฐานอย่างการ “จ่ายบอล” ควรต้องเริ่มต้นก่อนเลยเป็นอันดับแรก
เกมที่ เซนต์เจมส์ พาร์ค รังของสาริกาดง เป็นอะไรที่เห็นชัดเจนว่าการเข้าบอลทั้งหนัก และเร็วของผู้เล่น นิวคาสเซิ่ล นั้นทำให้ทีมเยือนเหมือนถูกวางกับดักจนเล่นเกมของตัวเองแทบไม่ได้เลย

Magpies & Red Devils ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมนั้นต้องขับเคี้ยวกันอย่างเดือดดาน

The Magpies & Red DevilsMagpies & Red Devils แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมขึ้นมาอย่างตะกุกตะกักทุลักทุเลเป็นเพราะฝั่งเจ้าถิ่นจะยืนรับถึง 2 ชั้น โดยกลางกับหลังจะไม่เปิดพื้นที่ระหว่างกันมากนัก

เหตุนี้ทำให้ เฟร็ด และ สก็อต แม็คโทมิเนย์ ค่อนข้างได้บอลบ่อยเนื่องจากตำแหน่งที่ยืนจะอยู่ตรงครึ่งวงกลมซึ่งผู้เล่นนิวคาสเซิ่ลนั้นจะปล่อย ในพื้นที่บริเวณนั้น แล้วจะมาจับอีกทีเมื่อข้ามเขตเข้ามาในโซนตัวเอง กำลังจะบอกว่านี่คือจุดอ่อนของ แมนฯ ยูไนเต็ด เต็มๆ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ 2 คนนี้ได้บอลจะจ่ายแบบเบๆ ช้า และไม่ค่อยจะได้เปรียบ ในบางจังหวะไม่ควรจ่ายแต่ก็ยังจ่ายจนเสียกลับมา
วิชั่นในหัวนั้นไม่ต้องถามหา แบ็คออกตัววิ่งแต่ไม่เห็น หรือเห็นแต่พยายามเล่นเพลย์เซฟเนิบๆ เป็นแบบนี้ นักเตะนิวคาสเซิ่ล ก็ปล่อยให้ดูโอคู่นี้ ทำอะไรกับบอลยังไงก็ได้ตามสบายใจท่าน
นอกจากดูโอ้คู่กลางแล้ว นักเตะเกือบทั้งทีมต่างนิยมในความลั่นไปตามๆ กัน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เหวอตั้งแต่ต้นเกมในขณะที่ วาราน กองหลังระดับโลกเจอรุม 2 ก่อนถูกฉกต่อหน้าต่อตา และกลายเป็นประตูขึ้นนำอย่างสุดสวยของ อัลแล็ง แซงต์-มักซิแม็ง ในที่สุด
สกอร์ตามหลังไม่เท่าไหร่แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพบว่าวันนี้งานหนักกว่าปกติเป็น 2 เท่า เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่านี่คือเป็นเกมที่ดีที่สุดของ “สาลิกา” ที่มีทุกอย่างเท่าที่ผู้จัดการทีมจะขอได้ จริงๆ แล้วก็เพื่อความมั่นคงในหน้าที่การงานของตัวเองด้วย เพราะทราบดีว่าตลาดเปิดรอบนี้ ใครไม่เข้าตา นั้นมีสิทธิอาจจะต้องโดนเฉดออกไป ไม่ในตลาดรอบนี้ ก็ตลาดช่วงซัมเมอร์หน้า
เมื่อนักเตะเล่นแบบวิ่งตาย ถวายหัวแล้วขนาดนี้ พลพรรคแฟนบอลทูนอาร์มี่ จะเชียร์บอลได้มันที่สุดในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ เสียงปรบมือ และเสียงเฮดังนั้นกระหึ่มแทบทุกๆ นาที ทั้งหมดทั้งมวลมาจากความมุ่งมั่นของนักเตะนิวคาสเซิ่ลล้วนๆ
จุดสังเกตในครึ่งหลังนั้น ราล์ฟ ริงนิค เห็นสภาพแล้ว พอดูทีท่าจะไม่ไหวรีบแก้เกมทันที เปลี่ยน เอา เฟร็ด กับ กรีนวู้ด ออกแล้วส่ง ซานโช่ เพื่อมาเปิดบอลให้ คาวานี่
ครึ่งแรกทีมเยือน ยูไนเต็ด นั้นก็พยายามเปิดบอลจากปีกขวาอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เข้าเป้า และไม่มีพวกสัญชาตญาณจมูกไว จะโยนไปก็เสียเปล่า
ประตูตีเสมอในนาที 71 ก็มาจากการเปิดทางริมเส้นของ ดาโลท์ และจังหวะบอลทำให้ คาวานี่ ได้ยิงซ้ำดาบ 2 ท่ามกลางผู้เล่นเจ้าถิ่น 3 คน เป็นความผิดพลาดเดียวเท่านั้น ที่จะหาได้จากเกมนี้ของฝั่ง ทัพ “เจ้าสาริกาดง”
โอกาสที่ใกล้เคียงให้แฟนได้เสียวๆ อีก 2 ครามาจาก คาวานี่ ทั้งหมด นอกนั้นแทบหาจังหวะจะๆ ของ “ปีศาจแดง” แทบไม่ได้เลย

สำหรับ “สาลิกาดง” นั้นจะได้ผ่านช่วงเวลาฟ้ากลั่นแกล้งซักที

หลังเจอช่วงมรสุมทั้ง เลสเตอร์, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ติดต่อกันมาแบบไม่มีพักไม่ได้ผ่อนจนแพ้รวดทั้ง 3 นัดโดนยิงรวม 11 ลูก ก่อนจะมาได้ผีแดงช่วยเบรกสถิติไว้ในนัดนี้
และโปรแกรม 3-4 นัดต่อไป ที่จะต้องพบ เอฟเวอร์ตัน, เซาธ์แฮมป์ตัน, วัตฟอร์ด และ ลีดส์ หาก “ทัพสาริกาดง” เกิดติดเทอร์โบ เล่นได้เหมือนที่เจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งขี้หมูขี้หมาต้องมีชนะบ้างอยู่แล้วหละ
แต่ปัญหาก็คือนักเตะ หรือสต๊าฟนั้นจะสร้างแรงจูงใจจนวิ่งลืมตายให้ตัวเองได้ยังไงในเมื่อทีมที่เจอไม่ได้ใหญ่ขนาด แมนฯ ยูฯ เป็นเรื่องที่น่าสนใจเอามากๆ
เพราะ “นิวคาสเซิ่ล” นั้นก็ยังโชคดีตรงที่ว่าฤดูกาลนี้ทีมที่อยู่ข้างบนโซนอันตรายผลงานบู่พอๆ กันจนไม่ได้ทำแต้มทิ้งหนีกันไปไหนไกลเลย
เบิร์นลีย์ (อันดับ 18 มี 11 แต้ม), “เจ้าแตนอาระวาด” วัตฟอร์ด (17 มี 13 แต้ม) แค่ชนะเพียงเกม 2 เกม ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ก็จะหลุดจากโซนสีแดงได้เลย
จุดเดียวที่เสียเปรียบคือ นิวคาสเซิ่ล ใช้โควต้าลงเล่นเต็มแม็กซ์ ไปถึง19 เกมเต็ม ไม่มีเลื่อนซึ่งเตะมากกว่า เบิร์นลีย์ ถึง 4 เกม และทาง วัตฟอร์ด อีก 3 เกม
สุดท้ายก็คงต้องรอจุดเปลี่ยนที่เหล่าบรรดา “ทูนอาร์มมี่” นับวันรอคอยกันมานานแล้ว นั่นคือการเสริมทัพในตลาดหน้าหนาว หวังพึ่ง แม็กซิแมง คนเดียวคงตายแน่ๆ สภาพพ่อหนุ่มคนนี้มันชั่งเปื่อยเต็มทนแล้ว จะโดนเตะ จะเจ็บยังไงก็ต้องทน รอเพื่อนใหม่เข้ามาช่วยในตลาดหน้าหนาวนี้
ตัดมาทาง แมนฯ ยูฯ นั้นการทำได้แค่เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ทำให้ ยูไนเต็ด ยังอยู่อันดับ 7 และเส้นทางขยับเข้าใกล้ top 4 ดูจะเหนื่อยขึ้นมากยิ่งขึ้นไปอีกพอสมควรเพราะ อาร์เซนอล และ สเปอร์ส กำลังเครื่องร้อนโกยแต้มหนีไปเรื่อยๆ แล้ว
แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ในตอนนี้ ลุง รังนิค คงต้องเพิ่มโปรแกรมซ้อมจ่ายบอลภายในทีมให้หนักกว่านี้ ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะกรายเป็นแค่ทีมกลางตารางหน้าใหม่ในยุคนี้ 
โรมิโอ